ศัลยกรรมถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา ปัญหาที่ทำให้แก่เกินวัย 
ผ่าตัดแก้ไข ถุงใต้ตาให้เรียบเนียน โดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา

 

หลังผ่าตัดถุงใต้ตา พร้อมตกแต่งหนังตาส่วนเกินออก จะทำให้ใบหน้าดูเด็กลง และสดใสขึ้น

 

สาเหตุการเกิด “ถุงใต้ตา”
ปัญหาถุงใต้ตาบวม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย และเกิดจากหลายสาเหตุ ถึงแม้ปัญหานี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ แต่ก็สร้างความอ่อนล้าให้กับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย จนหลายคนที่พบเจอกับปัญหานี้เกิดความกังวลใจ ขาดความมั่นใจ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานก็อาจทำให้ปัญหานี้ลุกลามจนแก้ไขได้ยาก

 

 

ตอบคำถามยอดฮิต เกี่ยวกังการศัลยกรรมถุงใต้ตา โดย คุณหมอเป็นหนึ่ง Someko

 

ถุงใต้ตา และความหย่อนคล้อยบริเวณเปลือกตาล่าง เกิดจาก กล้ามเนื้อตาที่เปรียบเสมือนผนังของหนังตาที่กั้นไขมันใต้ตาไว้อ่อนล้าและเสื่อมสภาพลง เนื่องจากพฤติกรรมที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ ก้อนไขมันนั้นจะดันผนังกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแอออกมาให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจเห็นได้ตั้งแต่วัยรุ่นและชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุ ทำให้ดูไม่สดใส ดูเหนื่อยล้าเหมือนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลาซึ่งคอยบดบังความงามของดวงตาคู่สวย

ด้วยความที่ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมากๆ เราควรต้องดูแลผิวหนังบริเวณนี้อย่างถูกวิธีด้วยค่ะ หากคิดจะกำจัดถุงใต้ตาให้ออกไป การทำศัลยกรรมตกแต่งถุงใต้ตา เป็นทางเลือกหนึ่ง เพราะถ้าหากไม่มีถุงใต้ตาก็จะทำให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ ดวงตาดูสดใสขึ้น 

 

 

ลักษณะของถุงใต้ตา
หลาย ๆ คนที่เจอกับปัญหาถุงใต้ตา มักจะแก้ปัญหาด้วยการซื้อครีมบำรุงรอบดวงตามาทา ซึ่งนานไปจะรู้ได้เองว่าครีมบำรุงรอบดวงตานั้นไม่ได้ทำให้ถุงใต้ตาหายไป แต่ก่อนที่จะรู้ว่าถุงใต้ตาสามารถแก้ไขอย่างไรได้บ้าง เรามาทำความเข้าใจกับลักษณะของถุงใต้ตากันก่อน

• ถุงใต้ตาที่เกิดจากกรรมพันธุ์ : ถุงใต้ตาลักษณะนี้เกิดจากระบบที่ผิดปกติของร่างกาย ไขมันและของเหลวต่าง ๆ มารวมตัวกันบริเวณใต้ตาจนทำให้เกิดเป็นถุงนูนออกมา พบเห็นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
• ถุงใต้ตาที่เป็นเมื่ออายุมากขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังเริ่มเกิดความหย่อนคล้อย พนังกั้นบริเวณใต้ตาหย่อนยาน ทำให้เห็นไขมันเป็นลักษณะปูดนูนชัดขึ้น

 

ไขมันใต้ตาแหละหนังตาส่วนเกิน สาเหตุของถุงใต้ตาและความหย่อนคล้อย

 

หากคิดจะกำจัดถุงใต้ตาให้ออกไปนั้น การทำศัลยกรรมตกแต่งถุงใต้ตา เป็นทางเลือกที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เพราะถ้าหากไม่มีถุงใต้ตาก็จะทำให้ดวงตากลับมาดูกระชับ เปล่งปลั่ง สดใส การทำศัลยกรรมตกแต่งตาล่างนี้สามารถทำได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

 

 

วิธีการผ่าตัดแก้ไขถุงใต้ตาหย่อนคล้อย

• ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบเปิดแผลด้านใน วิธีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่อายุยังน้อย หรือผู้ที่มีไขมันเกิน และหนังตาส่วนเกิน แต่ยังไม่หย่อนคล้อยมาก โดยวิธีนี้แพทย์จะผ่าตัดผ่านทางเยื่อบุแผลด้านในตา ตัดเฉพาะไขมันที่ทำให้เกิดปัญหาออก ข้อดีคือ ไม่มีแผลผ่าตัดบริเวณภายนอก 

 

หลังผ่าตัดถุงใต้ตาเสร็จทันที ผิวเรียบตึงขึ้น ถุงใต้ตาหายไป

 

• ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบเปิดแผลด้านนอกเป็นการผ่าเปิดแผลจากบริเวณด้านนอกของขอบตาล่าง ซึ่งวิธีนี้สำหรับคนอายุมาก หรือผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตามาก และมีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย เพราะจะตกแต่งได้ทั้งหนังตาที่หย่อนคล้อย พร้อมตัดไขมันในถุงใต้ตาออกไปได้ แต่อาจเห็นรอยแผล ซึ่งแพทย์จะพยายามซ่อนแผลไว้ชิดแนวขนตาด้านล่าง ซึ่งอาจมีอาการบวมช้ำมากกว่าการผ่าแบบเปิดแผลด้านใน แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะแผลและความบวมช้ำนั้นจะค่อย ๆ หายไปค่ะ

 

 

ทั้งนี้การจะเลือกใช้วิธีการใดนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของคนไข้ที่แตกต่างกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมสำหรับปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคล ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำศัลยกรรมรอบดวงตาที่ตรงกับปัญหาและความต้องการของคนไข้เป็นสำคัญ

 

Someko ออกแบบการแก้ปัญหาถุงใต้ตาอย่างตรงจุด แบบเฉพาะบุคคล

 

ข้อดีของการศัลยกรรมถุงใต้ตาที่ Someko

1. ถุงใต้ตาเรียบเนียนหน้าดูสดใสขึ้น
2. ดวงตาสวยเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
3. ผ่าตัดเทคนิคแผลเล็ก ซ่อนรอยแผล
4. เทคนิคพิเศษลดโอกาส การเกิดแผลเป็นในอนาคต
5. ใช้เวลาไม่นาน บวมช้ำน้อย พักฟื้นระยะสั้น
6. ประเมินและออกแบบอย่างตรงจุดเฉพาะบุคคลเคสต่อเคส
7. ผ่าตัดโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตา

 

ก่อน และหลังทำศัลยกรรม “ถุงใต้ตา” ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

การปฏิบัติตัวสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนทำศัลยกรรม และการดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรม ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะยิ่งช่วยทำให้การทำศัลยกรรมได้ผลดียิ่งขึ้น

 

ข้อปฏิบัติก่อนการผ่าตัดควรเตรียมตัวอย่างไร ?

1. งดรับประทานยาอาหารเสริม และวิตามิน 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
2. งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
3. หากมีโรคประจำตัว หรือประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
4. ควรแจ้งประวัติการฉีด เสริมและตกแต่งใบหน้า กับแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
5. นอนหลับให้เพียงพอ ไม่ต้องงดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด
6. ถึงแม้หลังผ่าตัดจะไม่บวมมาก แต่ไม่แนะนำให้ขับรถกลับเองหลังผ่าตัด เพื่อความปลอดภัย
7. สามารถเตรียมแว่นตากันแดดมาใส่บัง หลังผ่าตัดได้
8. แนะนำให้พักหลังผ่าตัด อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อลดการใช้สายตาและมีเวลาประคบแผลมากขึ้น แผลจะหายเร็วขึ้น

 

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัด

1. หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก วางเจลประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นโดยใช้ผ้ารองก่อน ระวังไม่ให้แผลเปียก ถ้ามีเลือดซึมสามารถใช้ผ้าก๊อซกดที่แผล ไม่ต้องแรง จนกว่าเลือดจะหยุดซึม
2. นอนศีรษะสูงกว่าปกติใน1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
3. ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
4. ป้ายยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งที่แผล อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
5. ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะทำให้แผลติดเชื้อได้
6. หลังวันที่ 3 เป็นต้นไป หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น (ระวังไม่ให้ร้อนเกินไป) ช่วยให้หายเร็วขึ้น 
7. สามารถสลับกับประคบเย็นได้เพื่อช่วยให้ลดบวมเร็วขึ้น ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำให้ประคบเย็นต่อไป
8. ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามินที่หยุดรับประทานก่อนผ่าตัด สามารถรับประทานได้หลังผ่าตัด วันที่ 3 หรือเมื่อไม่มีเลือดออกซึมแล้ว
9. หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เหล้า ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
10. รับประทานยาฆ่าเชื้อที่แพทย์สั่งจนหมด ยาแก้ปวดเฉพาะเวลามีอาการ
11. เมื่อออกไปข้างนอกให้ใส่แว่นตากันลมฝุ่น สิ่งสกปรก
12. มาตัดไหมตามนัด 5-7 วัน