ตอบทุกข้อสงสัย เรื่องฉีดไขมันหน้า

คุณหมอพีพี Someko เคลียร์ให้ชัดทุกเรื่องก่อนฉีดไขมันหน้าเด็ก กับ 16 คำถาม ที่คนอยากฉีดไขมันถามเข้ามาเยอะที่สุด

 

1. ใช้ไขมันจากตรงไหนมาฉีดที่หน้าคะคุณหมอ

ตอบ สำหรับส่วนตัวหมอ (คุณหมอพีพี someko) หมอจะเลือกใช้ไขมันชั้นลึกครับ เนื่องจากจะเป็นไขมันส่วนที่ดีที่สุด เซลล์ไขมันแข็งแรงที่สุด เมื่อนำมาฉีดจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ โดยส่วนใหญ่หมอจะเลือกใช้บริเวณต้นขาด้านหลัง ถึงแม้การดูไขมันชั้นลึกที่ต้นขาด้านหลังจะดูดออกมาได้ยาก แต่หากเทียบกับคุณภาพของไขมันที่ได้ ยังไงหมอก็เลือกที่จะใช้ไขมันส่วนนี้ครับ

 

2. ตรงที่ดูดไขมันออกมา จะระบบมากไหมคะคุณหมอ

ตอบ ระบมไม่มากครับ และแผลเล็กมากๆ เพียง 0.3-0.5 cm เท่านั้นครับ เนื่องจากการดูดไขมันเพื่อนำมาฉีดหน้า กับการดูดไขมันแบบดูดทิ้งเพื่อลดสัดส่วน จะใช้วิธีที่ต่างกันครับ รวมถึงปริมาณที่ดูดออกมาด้วยครับ การดูดไขมันแบบดูดทิ้งเพื่อลดสัดส่วนจะดูดออกมาในปริมาณมาก โดยการใช้เครื่องดูดไขมันชนิดต่างๆ เช่น Vaser หรือ Bodytite ซึ่งเครื่องพวกนี้จะทำให้เกิดความร้อนที่ชั้นผิวด้วย หลังดูดไขมันจึงอาจจะระบม และบวมช้ำเยอะครับ ส่วนการดูดไขมันเพื่อนำมาฉีดที่หน้า หมอจะดูดออกมาในปริมาณที่เพียงพอกับการนำไปฉีดเท่านั้นครับ และใช้เทคนิคการดูดด้วยมือ (manual technique) เพื่อถนอมให้เซลล์ไขมันบอบช้ำน้อยที่สุด คงคุณภาพของไขมันไว้ได้ดีที่สุดครับ อาการบวมช้ำจะน้อยมากๆครับ 

 

3. หลังฉีดไขมันหน้าแล้วจะบวมอยู่กี่วันคะคุณหมอ

ตอบ สำหรับเทคนิคการฉีดไขมันของหมอ (คุณหมอพีพี someko) อาการบวมช้ำจะน้อยมากๆครับ สามารถใช้ชีวิตได้ปกติตั้งแต่วันแรกที่ฉีดไปเลย เพียงแต่ต้องปฏิบัติตัวตามที่หมอแนะนำอย่างเคร่งครัดนะครับ สำหรับอาการบวม อาจมีได้ในช่วง 7-10 วัน ครับ เป็นเรื่องปกติเลยครับ ไม่ต้องกังวลเลย

 

4. ฉีดไขมันหน้าจะเข้าที่กี่เดือน และหลังเข้าที่แล้วไขมันอยู่ได้นานเท่าไหร่คะคุณหมอ

ตอบ ระยะเข้าที่ของการฉีดไขมันอยู่ที่ 2-4 เดือน (โดยปกติเฉลี่ยที่ 3 เดือน) หลังจากเข้าที่แล้วไขมันจะอยู่ได้ตลอดชีวิต

 

5. ถ้าผอมมากๆ จะเอาไขมันตรงไหนมาฉีดได้บ้างคะคุณหมอ

ตอบ เนื่องจากไขมันส่วนที่หมอเลือกใช้ จะเป็นไขมันชั้นลึกนะครับ ซึ่งไม่ว่าจะมีหุ่นแบบไหน ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ทุกคนจะมีไขมันชั้นลึกทุกคนครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าผอมมากๆแล้วจะไม่มีไขมันให้หมอดูดออกมาฉีดนะครับ 

 

6. ฉีดไขมันหน้า ยิ่งฉีดปริมาณเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี จะเหลือไขมันที่หน้ายิ่งเยอะ จริงหรือไม่

ตอบ ไม่จริงครับ การฉีดไขมันหน้าเข้าไปในปริมาณที่เยอะมากๆจนเกินพอดี ไม่ได้หมายความว่าไขมันจะติดบนหน้าเราได้เยอะนะครับ เนื่องจากการฉีดไขมันหน้าในปริมาณที่มากจนเกินไป จะทำให้เซลล์ไขมันเรียงตัวกันอย่างแออัด เส้นเลือดไม่สามารถเข้าไปเลี้ยงเซลล์ไขมันได้อย่างทั่วถึง ทำให้โอกาสรอดชีวิตของไขมันลดลง และอาจส่งผลเสียตามมาได้อีกด้วยครับ คือ

• เมื่อเซลล์ไขมันรอดชีวิตไม่สม่ำเสมอในแต่ละจุดบนใบหน้า จะทำให้ไขมันที่ฉีดไปไม่เรียบ
• โอกาสติดเชื้อจะสูง 

 

7. ฉีดไขมันหน้าต้องฉีดกี่ครั้งคะคุณหมอ

ตอบ ตรงนี้จะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและปัญหาของแต่ละเคสเลยครับ สำหรับบางคนหลังจากเติมไปครั้งแรก เข้าที่แล้วรู้สึกว่าชอบแล้ว พอดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเติมเพิ่มครับ โดยปกติไขมันจะติดอยู่ที่ 50-70% ครับ หลังจากที่ฉีดไป สำหรับบางคนหลังจากไขมันเข้าที่แล้วยังรู้สึกว่าต้องการให้เต็มกว่านี้อีก ก็สามารถมาเติมซ้ำได้เลยครับ และจะมีอีกกรณีคือในกลุ่มคนไข้ที่ค่อนข้างมีอายุ บางคนก็จะมาเติมซ้ำทุกเดือน เพื่อ maintain ให้ผิวเด็กและดี มีการเติมเต็มตลอดเวลาครับ

 

8. ไขมันกับฟิลเลอร์ ฉีดอะไรดีกว่ากันคะ

ตอบ จริงๆในมุมหมอ ทั้งไขมันและฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าได้ดีทั้งคู่เลยครับ แต่จะมีรายละเอียดที่ต่างกัน 4 จุด คือ

• สารที่ใช้ในการเติมเต็ม : ฟิลเลอร์จะเป็นสารสังเคราะห์ คือ HA หรือ Hyaluronic acid ซึ่งจะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ หลังฉีดก็จะทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นด้วย ส่วนไขมันจะเป็นเซลล์ไขมันจากร่างกายของเราเอง ซึ่งนอกจากเติมเต็มแล้ว จะมีคุณสมบัติในเรื่องของการบำรุงเซลล์ผิว กระตุ้นเซลล์ผิวให้ดีขึ้นด้วย ทำให้ผิวเด้งฟู ฉ่ำวาว สถาพผิวดีขึ้น
• ผลลัพธ์หลังฉีด : หลังฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไปเท่าไหร่ก็จะได้การเติมเต็มเท่ากับจำนวนซีซีที่ฉีดไป ผลลัพธ์สวยตั้งแต่หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที แต่ฟิลเลอร์จะมีอายุอยู่ตามรุ่นของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น และจะค่อยๆสลายไปจนหมด ในช่วง 1-2 ปี แต่ในส่วนของการฉีดไขมัน หลังจากไขมันเข้าที่แล้ว ปริมาณไขมันที่ติดอยู่กับผิวจะคงเหลืออยู่ที่ ประมาณ 50-70% และหลังจากไขมันเข้าที่แล้วก็จะอยู่ได้ตลอด ซึ่งหลังจากฉีดไขมันเสร็จทันทีหน้าจะมีอาการบวมจากการฉีดไขมันอยู่ไม่เกิน 7-10 วัน ใบหน้าจึงจะดูสวย ละมุน เป็นธรรมชาติ
• ค่าใช้จ่าย : หากใบหน้าเรามีปัญหาค่อนข้างเยอะ ต้องการการเติมเต็มหลายส่วน ทั้งหน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม แก้มตอบ แน่นอนว่าการเติมไขมันจะคุ้มค่ามากกว่า เนื่องจากจะเป็นการฉีดแบบทั่วหน้า หากเทียบกับฟิลเลอร์ ก็อาจต้องใช้มากถึง 20-40 ซีซี แต่หากใบหน้าเรามีปัญหาแค่เพียงบางจุด เช่น กังวลเฉพาะในส่วนของใต้ตา ก็สามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์แทนได้ เนื่องจากสามารถทำได้ทันที สะดวก รวดเร็ว ขั้นตอนน้อยกว่า ไม่ต้องเปิดแผลหลายจุด
•  การเปิดแผล : การฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้เลยทันที มีแผลจุดเดียว ตรงที่ฉีดฟิลเลอร์ ส่วนการฉีดไขมันจะมีแผล 2 จุด คือ แผลจุดที่ดูดไขมัน และแผลจุดที่ฉีดไขมัน

ข้อแตกต่างระหว่างการฉีดไขมันและฟิลเลอร์นะครับ หมอมองว่าไม่มีอะไรดีกว่ากัน แต่ขึ้นกับปัญหาและความต้องการของคนไข้เป็นสำคัญครับ เราชอบแบบไหนเลือกฉีดแบบนั้นได้เลยนะครับ

 

9. เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว ต้องการฉีดไขมัน ทำได้หรือไม่ หากทำได้ควรเว้นห่างกันกี่เดือน

ตอบ สามารถทำได้ครับ แนะนำว่าควรเว้นอย่างน้อย 6 เดือน ให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปเข้าที่เต็มที่ อยู่ในชั้นผิวที่เหมาะสมเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่ศัลยแพทย์ที่ทำการฉีดไขมันจะได้สามารถฉีดไขมันเข้าไปในชั้นผิวที่ถูกต้องได้ 

 

10. เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว และไปฉีดสลายฟิลเลอร์มา ต้องการฉีดไขมัน ทำได้หรือไม่ หากทำได้ควรเว้นกี่เดือน

ตอบ สามารถทำได้ครับ แนะนำให้เว้นอย่างน้อย 2 เดือน เนื่องจากหลังฉีดสลายฟิลเลอร์แล้ว ผิวบริเวณนั้นจะยังมีการอักเสบอยู่ จึงยังไม่แนะนำให้ฉีดไขมันต่อเลยในทันที ซึ่งในช่วง 2 เดือนนี้ เป็นระยะเวลาเพียงพอที่การอักเสบต่างๆจะหายเป็นปกติครับ
 

11. หลังฉีดไขมันแล้ว ต้องการเติมเต็มใบหน้าบางส่วนเพิ่มเติมด้วยฟิลเลอร์ สามารถทำได้หรือไม่ และควรเว้นจากการฉีดไขมันกี่เดือน

ตอบ สามารถทำได้ครับ แนะนำเว้นจากการฉีดไขมัน 3 เดือน เพื่อให้ไขมันติดที่ฉีดเข้าไปเกิดการเกาะติดที่ชั้นผิวอย่างสมบูรณ์ก่อน ก่อนที่จะเติมฟิลเลอร์เข้าไป

 

12. กรณีที่เคยฉีดสารแปลกปลอมที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ เช่น ซิลิโคนเหลวมา สามารถฉีดไขมันได้หรือไม่

ตอบ สามารถฉีดไขมันได้ครับ แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากจะมีโอกาสในการติดเชื้อสูงมากๆ ในคนไข้กลุ่มที่เคยฉีดสารเหลว(ที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้) มาก่อน เนื่องจากสารเหลวกลุ่มนี้จะไม่สลาย และจะมีการแทรกซึมไปตามเนื้อเยื่อชั้นต่างๆ กระจายไปทั่ว เมื่อเกิดการทำหัตการอะไรเพิ่มเติมในบริเวณนั้น อาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมาได้สูงครับ

 

13. หลังร้อยไหม สามารถฉีดไขมันได้หรือไม่ 

ตอบ สามารถฉีดไขมันหน้าได้ครับ แต่ให้เว้น 1-2 เดือน เพื่อรอให้ไหมเข้าที่เต็มที่ ไม่เหลือการอักเสบที่ชั้นผิวแล้วครับ

 

14. เคยทำการดูดไขมันมาแล้ว อาจด้วย VASER หรือเครื่องดูดไขมันอื่นๆ รวมถึงการสลายไขมันด้วยการทำ cool sculping มาแล้ว สามารถดูดไขมันเพื่อนำมาฉีดที่หน้าได้หรือไม่

ตอบ สามารถฉีดไขมันหน้าได้ครับ โดยเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ถึงแม้ว่าจะเคยดูดเอาไขมันหรือทำลายไขมันไปแล้ว แต่เนื่องจากที่ someko แพทย์จะใช้เทคนิคในการดูดไขมันชั้นลึก ซึ่งเป็นไขมันส่วนที่แข็งแรง และไม่ได้ถูกทำให้เสียสภาพไป ไขมันชั้นลึกจึงยังเป็นไขมันคุณภาพดีที่เหมาะสำหรับนำมาฉีดใบหน้าได้ครับ 

 

15. เคยเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนมาแล้ว หรือเคยเสริมคางด้วยซิลิโคนมาแล้ว สามารถฉีดไขมันหน้าได้หรือไม่

ตอบ สามารถฉีดไขมันหน้าได้ครับ โดยจะต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงจริงๆเท่านั้น เนื่องจากต้องฉีดและจัดเรียงไขมันให้อยู่ในชั้นผิวที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

 

16. เคยได้ยินข่าวฉีดไขมันที่หน้าแล้วตาบอด จริงไหมคะคุณหมอ

ตอบ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ครับ แต่เกิดขึ้นได้น้อยมากๆ ซึ่งจะป้องกันปัญหานี้ได้ควรเลือกฉีดไขมันกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น เนื่องจากแพทย์จะรู้ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการฉีดไขมัน และเลือกตำแหน่งในการฉีดได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับการใช้ blunt canula (เข็มหัวทู่) ในการฉีดไขมัน ทำให้ไม่เกิดการตัดผ่านเส้นเลือด ป้องกันไม่ให้ไขมันหลุดลอดเข้าไปในหลอดเลือด

 

คุณหมอพีพี ประสบการณ์ในการฉีดไขมันกว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดไขมันโดยตรง เทคนิคการฉีดเฉพาะตัว ฉีดได้สวย เนียน เป็นธรรมชาติ และปลอดภัย หากมีคำถามอื่นๆสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการฉีดไขมัน สามารถทักมาสอบถามเพิ่มเติมได้ตลอดเลยนะคะ หรือนัดปรึกษาคุณหมอพีพี ที่ someko แบบไม่มีค่าใช้จ่ายได้เลยค่ะ ^^