CLICK TO VERIFY: This site uses a GlobalSign SSL Certificate to secure your personal information.

6 คำถาม เจาะลึก ฟิลเลอร์ใต้ตา

“ตา” ส่วนที่โดดเด่นที่สุดบนใบหน้า เวลาที่เราเจอใคร พูดคุยกับใคร จุดที่เราจะมองบ่อยที่สุดก็คือ ตา ของฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง การมีดวงตาที่สดใสจะทำให้เราดูมีเสน่ห์ และดูอ่อนเยาว์ และนอกจากดวงตาแล้ว องค์ประกอบรอบดวงตาเอง ไม่ว่าจะเป็นชั้นตา เปลือกตา คิ้ว ขนตา ริ้วรอยรอบดวงตา รอยคล้ำ และความเรียบเนียนของผิวบริเวณใต้ตา ก็มีความสำคัญเช่นกัน

 

1. ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

เมื่อเราอายุมากขึ้น ตั้งแต่ประมาณ 25-30 ปี ขึ้นไป จะสังเกตได้ว่าบริเวณใต้ตาของเราเปลี่ยนไป ทั้งร่องใต้ตาที่ลึกและชัดขึ้น ความเหี่ยวย่น และสีผิวใต้ตาที่คล้ำขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูเหนื่อยล้าและดูมีอายุ สาเหตุเกิดจากกระดูก ชั้นไขมัน กล้ามเนื้อ และผิวหนังบริเวณใต้ตา มีการเปลี่ยนแปลง และยุบตัวลงตามวัยของเรา ถึงแม้ว่าเราจะทาครีมบำรุงเยอะขนาดไหนก็ตาม ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาเหล่านี้ได้ สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตาและความเหี่ยวย่นใต้ตาอย่างตรงจุด ถูกวิธี เห็นผลทันทีและไม่ต้องพักฟื้น คือ “การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา” นั่นเอง นอกจากการเติมเต็มรอบดวงตาแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังช่วยให้สีผิวที่คล้ำดูดีขึ้นด้วย และเป็นการปรับมิติใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูเด็ก สดใส มีชีวิตชีวามากขึ้น แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ได้ผลดีนั้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีดเป็นสิ่งสำคัญ

 

2. ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ อะไร?

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ปกติในร่างกายของเรา พบได้ที่ผิวหนัง วุ้นลูกตา น้ำในข้อ มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานอกจากจะช่วยเติมเต็มร่องลึกแล้ว ยังช่วยให้ผิวหนังเรียบเนียน ชุ่มชื้นขึ้นด้วย ริ้วรอยเล็กๆต่างๆ จะจางลง (ยกเว้นริ้วรอยที่เกิดขึ้นเวลาที่เรามีการแสดงสีหน้า ริ้วรอยลักษณะนี้จะต้องแก้ไขด้วยการฉีดโบ) 

 

 

3. สิ่งที่ควรพิจารณาในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

 

 

  1. ต้องตรวจสอบได้ว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ 100% ผ่าน อย. ส่งตรงจากบริษัทยา ไม่ใช่ฟิลเลอร์หิ้ว: ฟิลเลอร์แท้จะมีความปลอดภัยสูง เพราะเนื้อฟิลเลอร์จะสลายหมด เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม ก็จะมีในหลากหลายรูปแบบ เช่น พาราฟิน ซิลิโคนเหลว ซึ่งจะไม่สลายไป ฉีดแล้วอาจเกิดการไหล และเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ ทำให้ใบหน้าผิดรูปตามมาได้
  2. แพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสรีระบริเวณใต้ตาเป็นอย่างดี มีประสบการณ์และความชำนาญสูง: เนื่องจากใต้ตาเป็นบริเวณที่มีโครงสร้างซับซ้อน มีผิวหนังที่บาง และมีเส้นเลือดอยู่เยอะ จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษและใช้ความระมัดระวังในการฉีด จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 ซีซี เท่ากัน กับแพทย์คนละคน จึงให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน หากแพทย์ไม่มีความชำนาญ อาจทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ฉีดออกมามีลักษณะเป็นก้อน ไม่เรียบเนียนตามที่ตั้งใจไว้ หรือฉีดแล้วกลายเป็นมีถุงใต้ตา หรือหน้าดูบวมไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นไม่ว่าจะใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหน รุ่นอะไร ราคาเท่าไหร่ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือแพทย์ผู้ฉีดฟิลเลอร์นั่นเอง
  3. การดูแลและติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแพทย์ต้องนัดติดตามผลในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า และในระหว่างนั้นควรมีเจ้าหน้าที่ของทางคลินิกที่คอยสอบถามอาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของคนไข้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้วนั้น ไม่มีอาการผิดปกติใดๆเกิดขึ้นกับคนไข้ หรือหากคนไข้มีความกังวลใจส่วนใดจะได้สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับคนไข้ได้ หรือแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที เป็นการดูแลอย่างต่อเนื่อง

 

4. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ฟิลเลอร์ตัวไหนดี และต้องใช้กี่ ซีซี?

ไม่ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อไหน หรือรุ่นไหน หรือราคาไหร่ก็ตาม หากแพทย์ไม่มีความชำนาญและเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ที่ดี ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมไม่เป็นที่น่าพอใจ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ทุกบริเวณ คือ ความชำนาญ ประสบการณ์ และเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์นั่นเอง แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์สูงจะมีทั้งเทคนิคในการฉีดที่ดี และวิธีการในการเลือกใช้ฟิลเลอร์ชนิดต่างๆได้เป็นอย่างดี ไม่เปลืองฟิลเลอร์ ทำให้คนไข้ได้รับความคุ้มค่าในการฉีดฟิลเลอร์มากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้ว ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ 1-4 ซีซี ขึ้นกับปัญหาของแต่ละบุคคล

สำหรับฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมในการนำมาฉีดใต้ตานั้น แบ่งตามลักษณะปัญหา ได้ 2 กลุ่ม คือ

  1. ปัญหาร่องลึกใต้ตา: แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าปัญหาเกิดจากกระดูกยุบตัวลง ไขมันใต้ผิวหนังคล้อย หรือโครงสร้างของผิวหนังหย่อนยาน และเลือกให้ฟิลเลอร์ให้เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา อาจต้องใช้ฟิลเลอร์หลายรุ่นฉีดร่วมกัน เพื่อแต่งให้ใต้ตามีความสวยเนียน และเป็นธรรมชาติมากที่สุด ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม คือ Juvederm Voluma, Juvederm Vobella, Juvederm Volift, Juvederm Volite และ Neuramis Deep
  2. ปัญหารอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยเล็กๆ และความเหี่ยวย่นใต้ดวงตา: แก้ไขโดยใช้ฟิลเลอร์ที่เนื้อบางเบา มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวหนัง ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ ได้แก่ Juvederm Volite และ Restylane Vital Light

 

5. แล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ Someko แตกต่างอย่างไร?

  1. แพทย์ผู้ฉีด คือ คุณหมอมิว และ คุณหมอเบญ ของ Someko เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์มานานกว่า 8 ปี และมีเทคนิคการฉีดเฉพาะที่คุณหมอมิวและคุณหมอเบญได้คิดค้นขึ้นมาร่วมกัน ซึ่งจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด และไม่เปลืองฟิลเลอร์
  2. ฟิลเลอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ที่ Someko ใช้ เป็นฟิลเลอร์แท้ 100% ที่มีการรับรองมาตรฐานจาก อย. ไทย เป็นที่เรียบร้อย และส่งตรงจากบริษัทยาเท่านั้น ไม่มีการใช้ยาหิ้วหรือยาปลอมแน่นอน นอกจากนั้นยังมีการควบคุมคุณภาพระหว่างการขนส่งและการเก็บรักษายาเป็นอย่างดีที่สุด ฟิลเลอร์ที่จะใช้ฉีดทุกครั้งแกะกล่องใหม่ ตรวจสอบได้ และเป็นล็อตใหม่อยู่เสมอ เนื่องจากมีปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละเดือนเยอะ ทาง Someko การันตีได้เลยว่าไม่มีการใช้ฟิลเลอร์ที่หมดอายุแน่นอน 
  3. ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทีมแพทย์ Someko จะเปิดแผล 1 จุด และทำการฉีดด้วย Blunt Cannula หรือเข็มปลายทู่นั่นเอง ซึ่งเข็มชนิดนี้จะมีราคาแพง บางที่อาจมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเข็มปลายทู่ แต่ที่ Someko เราจะใช้เข็มปลายทู่ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้กับคนไข้ทุกเคส เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากเข็มปลายทู่จะไม่มีความคม จะช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและลดโอกาสในการฉีกขาดของเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี และมีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้เข็มมีขนาดที่ยาวทำให้สามารถฉีดไปได้หลายบริเวณจากการเปิดแผลเพียง 1 จุด เท่านั้น
  4. บริการแปะยาชา และฉีดยาชาให้ทุกครั้งก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงมีการประคบเย็นก่อนฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ และรู้สึกสบายขณะฉีด 
  5. มีการติดตามผล และดูแลคนไข้อย่างต่อเนื่องแบบส่วนตัว โดยทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ของ Someko

 

6. หากฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว ไม่ฉีดซ้ำ จะเป็นอย่างไร?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะทำให้ใบหน้าดูเด็กขึ้น มีความสดใส ไม่โทรม หากฟิลเลอร์ใต้ตาที่ฉีดไปสลายหมด ตามอายุที่อยู่ได้ของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นแล้ว สภาพผิวของเราจะกลับมาเป็นปกติ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่า การหยุดฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะทำให้เราหน้าแก่ดูมีอายุมากขึ้นกว่าเดิม

 

ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา someko

 

ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา someko

 

ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา someko

 

ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา someko

 

ตัวอย่างรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา someko

ลงทะเบียน รับโปรโมชั่นพิเศษ