ซิลิโคนหน้าอกแตกได้จริงมั้ย แตกแล้วต้องทำยังไงดี

ซิลิโคนหน้าอกแตก แก้ไขได้!

สำหรับปัญหาซิลิโคนหน้าอกแตกจะพบได้บ่อยในคนไข้ที่เสริมหน้าอกมานานมากๆแล้ว 10-20 ปี ขึ้นไป ซึ่งสาเหตุในการเกิด ก็จะเกี่ยวข้องกับ 2 ปัจจัยหลักๆ คือ 

1.ตัวซิลิโคนที่เลือกใช้ 

• ในช่วง 10-20 ปี ก่อน เทคโนโลยีต่างๆในการผลิตซิลิโคนหน้าอกจะยังไม่ได้ดีเท่ากับในปัจจุบัน ทำให้คุณภาพของซิลิโคนหน้าอกในช่วงนั้นอาจเกิดปัญหาในระยะยาวได้ นั่นก็คือซิลิโคนเสื่อมทำให้เกิดการรั่วซึมหรือแตกอยู่ภายในร่างกายเรา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการบีบเค้นหรือกระแทกอะไรรุนแรงก็ตาม เรียกว่าเป็นการเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน 
• แต่ในปัจจุบันวัสดุที่ใช้และวิธีการในการผลิตซิลิโคนหน้าอกมีการพัฒนาขึ้นมาก ทำให้ซิลิโคนหน้าอกมีคุณภาพสูง แข็งแรง และมีความยืดหยุ่นดี ทำให้โอกาสเสี่ยงในการรั่วซึมหรือแตกมีน้อยมากๆ เพียงแค่เราเลือกใช้ซิลิโคนแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. และตรวจสอบกับทางคลินิกได้ว่าซิลิโคนที่ใช้เป็นของแท้แน่นอน 

2.เทคนิคในการผ่าตัดเสริมหน้าอก 

ตรงนี้ก็สำคัญมาก การเลือกตำแหน่งในการวางซิลิโคนหน้าอกควรจะต้องเหมาะกับสรีระและโครงสร้างหน้าอกเดิมของคนไข้ หากเลือกใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมรวมถึงเลือกขนาดซิลิโคนที่ใหญ่จนเกินไปอาจทำให้เกิดการพับงอของซิลิโคน และเกิดเป็นพังผืดหดรั้งในตำแหน่งนั้นได้ หากเกิดพังผืดหดรั้งเยอะก็อาจทำให้เกิดซิลิโคนรั่วซึมหรือแตกได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก แก้หน้าอก ควรเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อน

จะรู้ได้ยังไงว่าซิลิโคนแตก?
อาจสังเกตได้จากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหน้าอกที่อาจบ่งบอกได้ว่าซิลิโคนหน้าอกอาจแตก คนไข้ที่เสริมหน้าอกมานานหลายปีมากแล้วแนะนำให้ลองสังเกตหน้าอกของตัวเองด้วยว่ามีอาการผิดปกติเหล่านี้หรือไม่

• กรณีเสริมด้วยซิลิโคนบรรจุน้ำเกลือ : หากมีซิลิโคนรั่วซึมหรือแตก จะสังเกตได้ชัดเจนว่าเต้านมข้างใดข้างหนึ่งมีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน เนื่องจากน้ำเกลือจะไหลออกจากตัวซิลิโคนจนหมด และตัวน้ำเกลือที่ไหลออกมา ร่างกายเราก็จะดูดซึมไปจนหมด ไม่มีสารตกค้างอยู่ที่เนื้อเยื่อ กรณีนี้เลยจะไม่ได้อัตรายมากเพียงแต่ขนาดเต้านมของเราข้างที่ปกติและข้างที่ซิลิโคนแตกจะมีขนาดที่ต่างกันชัดเจนมากๆ 

• กรณีเสริมด้วยซิลิโคนเจล : อาการที่พบได้หากมีการรั่วซึมหรือแตกของซิลิโคนหน้าอกก็คือ ขนาดเต้านม 2 ข้าง อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย และอาจสัมผัสเจอก้อนแข็งๆบริเวณหน้าอก รวมถึงอาจมีอาการชาและเจ็บบริเวณหน้าอกร่วมด้วยครับ กรณีนี้จะอันตรายกว่า เนื่องจากตัวเจลที่รั่วซึมออกมาอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบติดเชื้อตามมาได้

สำหรับคนไข้ที่มีอาการลักษณะนี้และสงสัยว่าซิลิโคนหน้าอกอาจจะแตก แนะนำให้รีบนัดเข้ามาตรวจจะดีที่สุด ซึ่งการตรวจเพื่อ confirm ว่า ซิลิโคนหน้าอกแตกแน่นอน จะต้องทำการตรวจหน้าอกโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ร่วมกับการทำ ultrasound หรือ MRI สามารถทำได้ทั้ง 2 วิธี แต่จะแนะนำเป็นการทำ MRI มากกว่าเนื่องจากจะเห็นผลที่ชัดเจนและละเอียดกว่า สามารถระบุได้ว่าเจลจากซิลิโคนที่แตกไหลไปยังเนื้อเยื่อบริเวณใดบ้าง เพื่อวางแผนในการรักษาต่อได้อย่างแม่นยำ

หาก confirm แล้วว่าซิลิโคนหน้าอกแตกแน่นอนไม่ต้องกังวล เนื่องจากปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ โดยแพทย์จะผ่าตัดเพื่อนำเอาซิลิโคนหน้าอกออก รวมถึงการดูดเอาเนื้อเจลที่รั่วซือไปยังบริเวณเนื้อเยื่อหน้าอกรอบๆออกให้หมด สำหรับใครที่ปัญหาเรื่องซิลิโคนหน้าอกแตก สามารถนัดปรึกษาคุณหมอกัน Someko ได้เลยนะคะ คุณหมอเป็นศัลยแพทย์พลาสติกผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมหน้าอกโดยตรง