หมอมิวบอกว่า หน้าแบบนี้ไม่ควรฉีดโบกราม!
- ลัษณะที่ 1 แก้มตอบ : คนที่แก้มตอบมากๆ ยิ่งฉีดโบกรามไปจะทำให้แก้มยิ่งตอบมากขึ้น ใบหน้าลักษณะนี้ควรแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์มากกว่า
- ลักษณะที่ 2 โหนกแก้มเยอะ : คนที่มีโหนกแก้มเยอะ โหนกแก้มเด่น และโหนกแก้มสูง หากฉีดโบในปริมาณที่มากเกินไปหรือฉีดผิดตำแหน่ง จะทำให้โหนกแก้มยิ่งดูเด่นค่ะ (คนโหนกแก้มเยอะ สามารถฉีดโบกรามได้ แต่ต้องฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสม และใช้ปริมาณโบที่เหมาะสม ดังนั้นเทคนิคในการฉีดโบของแพทย์จึงสำคัญมาก สำหรับคนโหนกแก้มเยอะ)
- ลักษณะที่ 3 แก้มห้อยเป็นกระเปาะ : คนที่มีแก้มห้อย เป็นกระเปาะ หากฉีดโบกรามมากเกินไป จะทำให้แก้มยิ่งห้อยมากขึ้น แนะนำให้แก้ไขด้วยการทำไฮฟู่ (HIFU) ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์หรือร้อยไหม
- ลักษณะที่ 4 แก้มเยอะ : คนที่มีแก้ม มีไขมันบริเวณแก้มเยอะๆ การฉีดโบกรามอาจทำให้หน้าเล็กลงแค่นิดหน่อย แต่รูปหน้าจะไม่ได้เรียวขึ้นชัดเจน เนื่องจากยังมีส่วนของแก้มที่เป็นไขมันอยู่ ควรทำการสลายไขมันบริเวณแก้มร่วมด้วย
- ลักษณะที่ 5 กรามเล็ก : คนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามขนาดเล็ก การฉีดโบปรับหน้าเรียวจะเห็นผลไม่ชัดเจน (เนื่องจากโบออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อ ในการปรับรูปหน้าให้เรียวได้รูปมากขึ้น หากกล้ามเนื้อมีขนาดเล็ก การฉีดโบกรามจึงจะไม่เห็นความแตกต่าง)
สิ่งสำคัญที่สุดในการฉีดโบคือ โบที่ใช้ต้องเป็นของแท้ 100% ผ่าน อย. จัดส่งโดยบริษัทยา เพื่อการควบคุมคุณภาพที่ดีที่สุดของโบ และแพทย์ผู้ฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญ เลือกใช้ปริมาณโบที่เหมาะสมและฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยที่ฉีดแล้วใบหน้าจะต้องดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง หรือว่าตึงจนเกินไปด้วยนะคะ ^^